วันอาทิตย์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ความคิดสร้างสรรค์กับการทำงานประจำ

               ผมเชื่อว่ามีหลายคนที่ยังทำงานประจำรับเงินเดือนมากน้อยตามความรู้และประสบการณ์ ซึ่งโดยมากในการทำงานนั้นเราก็ต้องมีการเรียนรู้ขั้นตอน วิธีปฏิบัติ วิธีการแก้ปัญหา ให้งานแต่ละชิ้นนั้นสำเร็จลุล่วงไปได้ จนทำให้หลายคนคิดว่าวิธีการที่เราทำซ้ำๆเดิมๆ อยู่ทุกวันนั้นเป็นวิธีที่ดีและถูกต้องที่สุดแล้ว และอาจจะลืมตั้งคำถามว่าเราสามารถปรับปรุงให้มันดีขึ้นได้อีกไหม
               โดยความเป็นจริงแต่ละหน้าที่และวิธีการที่องค์กรกำหนดให้เราทำนั้นก็ต้องผ่านกระบวนการคิด ทดสอบ ลองผิดลองถูก เพื่อให้ได้มาซึ่งผลลัพธ์ที่ดีในระดับหนึ่ง จนสามารถกำหนดให้พนักงานสามารถที่จะเดินตามวิธีการนั้นๆได้ คำว่าระดับหนึ่งนั้นถ้าเรามาพิจารณาดูจะพบว่าวิธีการที่เราปฏิบัติต่อหน้าที่รับผิดชอบของตัวเองในแต่ละวัน ก็ยังมีช่องทางที่จะปรับปรุงพัฒนาได้อีกมากมาย สิ่งสำคัญคือเราต้องกล้าที่จะคิดและคิดอย่างสร้างสรรค์ เพื่อหาวิธีการที่ดีกว่าวิธีการเดิมๆที่เราเคยทำอยู่
               อย่าลืมว่าปัญหาที่เราเจอในงานทุกๆวันนั้นมันมีการฟักตัวและแปรเปลี่ยนตามปัจจัยต่างๆที่เกี่ยวข้อง และการเปลี่ยนแปลงของปัจจัยเหล่านี้แหละที่จะทำให้วิธีการเดิมๆที่เราจัดการกับปัญหาเดียวกันนี้ไม่ได้ผลและล้าสมัย
               ดังนั้นความคิดสร้างสรรค์ ความคิดนอกกรอบ จึงมีบทบาทที่สำคัญในการทำให้เราค้นพบกับวิธีที่ดีกว่าและสร้างผลงานให้เรามากกว่า การเรียนรู้และฝึกฝนที่จะเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์นั้นจึงมีความจำเป็นพอๆหรืออาจจะมากกว่าการทำตามกรอบเดิมๆด้วยความเคยชิน
               วิธีการง่ายๆและประหยัดเวลาให้เราตั้งคำถามก่อนเลิกงานสัก 5-10 นาที ทบทวนถึงปัญหาต่างๆที่เจอมาแต่ละวัน โดยหยิบมาสักหนึ่งปัญหาที่เราต้องการจะแก้ไขด้วยความคิดสร้างสรรค์ของเรา
เช่น วันนี้เรามีปัญหายอดขายของผลิตภัณฑ์ตัวหนึ่งลดต่ำลงกว่าครึ่งภายในหนึ่งสัปดาห์ หากเราจะแก้โดยวิธีเดิมๆ ที่เคยทำคือกลับไปหาเหตุผลที่จะสามารถนำมาอธิบายได้ว่าทำไมยอดขายจึงตกโดยอาจจะอ้างถึงภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำลงและมีข้อมูลเชิงตัวเลขมานำเสนออย่างสวยงาม ถ้าหากเราจะแก้ไขปัญหานี้ด้วยความคิดสร้างสรรค์เราต้องไม่ตอบคำถามเรื่องยอดขายตกเนื่องจากเศรษฐกิจเพราะมันจะทำให้เราหยุดคิดต่อเกี่ยวกับการแก้ปัญหายอดขายตกทันที แต่เราจะคิดต่อด้วยคำถามว่า มีวิธีการใดที่จะทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นได้บ้าง คำตอบอาจจะเป็น การอัดฉีดโปรโมชั่น, นำเสนอจุดเด่นของผลิตภัณฑ์, เปลี่ยนแปลง Packaging, ออกสปอร์ต โฆษณา, ปรับปรุงสินค้าเพื่อเพิ่มช่วงอายุของลูกค้า, ลดราคา, จัดทำบัตรสมาชิกและสิทธิ์พิเศษ เป็นต้น
                วิธีการเดิมๆนั้นล้วนแต่เป็นผลผลิตทางความคิดสร้างสรรค์ของคนรุ่นก่อน เพราะฉะนั้นเป็นหน้าที่ของคนรุ่นเราที่จะต่อยอดความคิดเหล่านั้นด้วยการสร้างสรรค์วิธีการที่ดีกว่า ปรับปรุง พัฒนาสิ่งที่มีอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้นและเป็นส่วนที่สำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรให้ก้าวไปข้างหน้า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น