วันพฤหัสบดีที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2556

FMEA Overview


Failure Modes and Effects Analysis (FMEA) เป็นวิธีการระบุถึงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ในกระบวนการหรือผลิตภัณฑ์ อีกทั้งยังสามารถประเมินความเสี่ยงที่เกิดจากปัญหาไปจนถึงการจัดลำดับผลกระทบของปัญหาและหาทางป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาอีก  
               ผลลัพท์จากการทำ FMEA เราจะได้ FMEA Table ซึ่งจะแสดงถึงระดับความรุนแรงของผลกระทบที่จะเกิดจากปัญหารวมทั้งแนวทางป้องกันไม่ให้ปัญหาเกิดขึ้นอีก และสำหรับแนวทางป้องกันนี้สามารถเป็นไปได้ทั้งวิธีที่มีอยู่แล้วหรือวิธีที่ถูกคิดค้นขึ้นมาใหม่
             FMEA เป็นเครื่องมือทางการวิเคราะห์ที่ดีตัวหนึ่ง มันสามารถทำให้เราคาดการณ์ถึงปัญหาที่จะเกิดล่วงหน้าได้  ผลจากการทำ FMEA กับกระบวนการหรือผลิตภัณฑ์จะช่วยให้เราเข้าไปจัดการกับสาเหตุของปัญหาโดยตรง ซึ่งจะทำให้เราป้องกันไม่ให้ปัญหาเหล่านั้นไปเกิดที่ลูกค้า   การทำ FMEA จะส่งผลถึง Yield ที่ดีขึ้น, คุณภาพที่ดีขึ้น, กระบวนการมีเสถียรภาพยิ่งขึ้น และแน่นอนที่สุดทำให้ลูกค้าเชื่อมั่นในสินค้าของเรายิ่งขึ้น
ประเภทของ FMEA ที่ใช้กันโดยทั่วไปในปัจจุบันมีดังนี้
        1. Syetem FMEA   2. Design or Product FMEA     3. Process FMEA   4. Service FMEA  5.Software FMEA
ขั้นตอนในการทำ FMEA สามารถทำได้ตามลำดับดังนี้
         1.จัดตั้งทีมงาน
         2.ทำความเข้าใจกับผลิตภัณฑ์หรือกระบวนการที่จะทำ FMEA
         3. เขียนรายละเอียดของขั้นตอนของผลิตภัณฑ์หรือกระบวนการนั้นๆในรูปของแผนภูมิการไหล (Process flow)
         4. ใส่รายละเอียดใน FMEA Table
          5.ประเมินคะแนนใน FMEA Table ในแต่ละช่องพร้อมทั้งเรียงลำดับความสำคัญ
         6.สรุปวิธีการแก้ไขปัญหาพร้อมทั้งลงมือปฎิบัติตามแนวทางนั้น โดยมุ่งไปที่การป้องกันไม่ให้ปัญหานั้นเกิดซ้ำอีก
         7. ติดตามผลหลังจากลงมือแก้ไขปัญหาไปแล้ว
         8.Update FMEA ตามระยะเวลาที่เหมาะสม
               จากการประเมินคะแนนใน FMEA Table เราจะได้ตัวเลขที่สำคัญมากตัวหนึ่งนั่นคือ RPN (Risk Priority Number) เป็นตัวเลขที่แสดงถึงระดับความเสี่ยงของแต่ละปัญหาทำให้เราสามารถเรียงลำดับได้ว่าควรจะแก้ปัญหาไหนก่อน-หลัง อย่างไร โดยที่   RPN = SEV X PF X DET  โดย SEV,PF และ DET เป็นตัวเลขที่ได้จากการประเมินคะแนนใน FMEA Table เบื้องต้น
                 อย่างที่รู้กันว่า FMEA จะถูกสรุปมาในรูปของตาราง ดังนั้นเมื่อระยะเวลาผ่านไป ผลิตภัณฑ์ กระบวนการ วิธีการ หรือกระทั่งเทคโนโลยีก็อาจเปลี่ยนแปลงไปซึ่งตรงนี้เป็นจุดที่ควรตระหนักว่า FMEA จะต้องมีการ Update หรือปรับปรุงตลอด โดยมีเกณฑ์หลักๆในการ Update ดังนี้                                                                        
              1. เมื่อมีการออกแบบผลิตภัณฑ์ หรือเปลี่ยนแปลงกระบวนการใหม่                                                       
              2. เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขกับผลิตภัณฑ์หรือกระบวนการที่กระทบการใช้งานหลัก
              3. เมื่อผลิตภัณฑ์หรือกระบวนการมีการเปลี่ยนแปลงที่แย่ลง
              4. เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ใหม่ที่ส่งผลกระทบกับการใช้งานเดิมของกระบวนการหรือผลิตภัณฑ์
             5. เมื่อโดนลูกค้าร้องขอ
             6. เมื่อพบว่าการวิเคราะห์ FMEA มีความผิดพลาดตั้งแต่ต้น

องค์การสำรวจอวกาศของสหรัฐอเมริกา(NASA) ทำ FMEA ก่อนส่งยานอวกาศออกไปสำรวจนอกโลกเป็นพันๆหน้ากระดาษ แล้วคุณจะไม่ลองใช้มันดูหรือครับ

1 ความคิดเห็น:

  1. อาจารย์ไม่ลองเขียนเกี่ยวกับ Lean for Supply Chain บ้างอ่ะคะ....จะคอยติดตามค่ะ

    ตอบลบ